พฤหัส. เม.ย. 25th, 2024

ธุรกิจสะดุด เงินไม่พอจ่ายหนี้ ธปท. ช่วยได้อย่างไร l Industry Insights รู้ลึกทุกเรื่องอุตสาหกรรม



เพราะ COVID-19 ธุรกิจสะดุด ไปทำงานไม่ได้ เงินไม่พอจ่ายหนี้ แบงก์ชาติช่วยท่านได้อย่างไร?

1. ทางด่วนแก้หนี้ คืออะไร?
ช่องทางทางด่วนแก้หนี้นี้เป็น “ช่องทางเสริม” รับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงที่มีมาตรการเว้นระยะทางสังคมเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งอาจทาให้ลูกหนี้
(1) ไม่สามารถติดต่อ ผู้ให้บริการได้ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเข้าไปจานวนมาก
(2) กรณีที่ลูกหนี้ติดต่อผู้ให้บริการแล้ว แต่ไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกัน เช่น คุณสมบัติไม่ผ่าน หรือเห็นว่าจะไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้แม้จะมีมาตรการผ่อนปรนของผู้ให้บริการแล้วก็ตาม

2. ทางด่วนแก้หนี้ทำงานอย่างไร ?
อันดับแรก ขอแนะนำให้ลูกหนี้ติดต่อผู้ให้บริการโดยตรงก่อน แต่หากไม่มีความคืบหน้าหรือข้อเสนอลูกหนี้ไม่ได้รับการพิจารณาให้มาใช้ทางด่วนแก้หนี้ ซึ่งเมื่อลูกหนี้กรอกข้อมูลในทางด่วนแก้หนี้ครบถ้วนแล้ว ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังผู้ให้บริการที่ลูกค้าระบุไว้ (เจ้าหนี้ 1 แห่งต่อ 1 คำขอ) ในปัจจุบันกำหนดวงรอบการส่งข้อมูลคำขอไปยัง ผู้ให้บริการ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ทุกวันจันทร์และพฤหัสบดี และอาจพิจารณาส่งข้อมูล ถี่ขึ้นหากมีลูกหนี้เข้ามาใช้ช่องทางจำนวนมาก

การพิจารณามาตรการช่วยเหลือ ปรับปรุงเงื่อนไข หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ให้บริการแต่ละแห่ง ประกอบกับความต้องการที่ลูกค้าระบุเลือกไว้ และผู้ให้บริการจะติดต่อแจ้งผลการพิจารณาให้ลูกค้าทราบตามมาตรฐานของแต่ละแห่ง ซึ่งจะมีระยะเวลาการพิจารณาแตกต่างกันตามประเภทสินเชื่อและปริมาณลูกค้า แต่โดยทั่วไปควรพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 7-10 วัน
ถ้าภายใน 2 สัปดาห์ยังไม่ได้รับการแจ้งผลการพิจารณา ลูกค้าสามารถโทรสอบถามได้ที่ 1213 ได้ ทั้งนี้ ศคง. ขอให้ผู้ให้บริการรายงานความคืบหน้าการพิจารณาคาขอของลูกค้าทุกรายที่ผ่านทางด่วนแก้หนี้ ทุกวันที่ 10, 20 และสิ้นเดือน (หรือวันทำการถัดไปกรณีที่ตรงกับวันหยุด)

3. หลังจากที่ลูกค้าได้กรอกคำร้องที่ “ทางด่วนแก้หนี้” กระบวนการหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร? จะทราบผลเมื่อไหร่?
หลังจากที่ลูกค้าได้กรอกคำขอผ่านทางด่วนแก้หนี้แล้ว ขั้นตอนกระบวนการที่เกี่ยวข้องจะมีดังนี้
(1) ศคง. จะจัดส่งข้อมูลคำขอแก้หนี้ไปยังผู้ให้บริการที่ระบุไว้
(2) ตามปกติผู้ให้บริการจะใช้เวลาพิจารณาแต่ละกรณีประมาณ 7-10 วัน หลังจากนั้น
ผู้ให้บริการจะติดต่อแจ้งผลการพิจารณาให้ลูกค้าทราบผ่านช่องทางติดต่อที่ผู้ให้บริการมีข้อมูล เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมล์
(3) 15 วันหลังจากยื่นเรื่องหากลูกค้ายังไม่ได้รับการติดต่อ สามารถที่จะโทรตรวจสอบผลการพิจารณาเบื้องต้นได้ที่ ศคง. โทร.1213
ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องจะสอบถามข้อมูลที่ได้ให้ไว้ อาทิ หมายเลขบัตรประชาชน/ทะเบียนนิติบุคคล และเบอร์โทรศัพท์ เพื่อยืนยันตัวตนลูกค้าให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ลูกค้าเตรียมข้อมูลสำคัญดังกล่าวให้พร้อม ซึ่งหากไม่ตรงกันเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบได้

หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213

หรือปรึกษาได้ที่
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
www.fti.or.th
– ขึ้น QR CODE
Line : @ftiThailand
Call Center 02-345-1000

————————
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อช่วยเหลือสมาชิกและผู้ประกอบการ เพื่อนำพาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

📍 อย่าลืมกดติดตามข่าวสารได้ที่ :
🔎 facebook :
💻 website :
📱 Line official : @ftithailand
🐦 Twitter :
📺 Youtube :